cropped-cropped-edtaro-logo-2.jpg

รีวิว A Forbidden Forest Experience: Harry Potter พาเที่ยวป่าต้องห้ามเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเวทมนตร์จริงๆ

เรื่องนี้เกี่ยวกับ

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปเที่ยวป่าต้องห้ามในโลกเวทมนตร์จาก Harry Potter ป่านี้อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แค่เกาะ Sentosa ประเทศสิงคโปร์เท่านั้นเอง เพราะเค้ากำลังจัดนิทรรศการ A Forbidden Forest Experience: Harry Potter ครับ นิทรรศการนี้จะเปลี่ยนประเทศที่จัดงานไปเรื่อยๆ ครับ รอบนี้มาใกล้ประเทศไทยสุดๆ คือสิงคโปร์ นั่งเครื่องบินไม่นาน งบไม่บาน แถมทั้งผมและแฟนต่างชื่นชอบ Harry Potter งานนี้เลยพลาดไม่ได้ครับ มาดูกันเลย

รีวิว A Forbidden Forest Experience: Harry Potter พาเที่ยวป่าต้องห้ามเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเวทมนตร์จริงๆ

งานนี้จะจัดอยู่ในบริเวณ Coastal Trail ของเกาะ Sentosa ครับ ปกติจะเป็นเส้นทางสำหรับเดินชมธรรมชาติอยู่แล้ว จึงดัดแปลงให้เข้ากับบรรยากาศป่าต้องห้ามได้เป็นอย่างดีเลยครับ โดยเราจะได้เดินไปตามทางที่ห้อมล้อมด้วยต้นไม้ทึบที่ตกแต่งด้วยแสงไฟ พร้อมกับเสียงดนตรีประกอบช่วยสร้างบรรยากาศ สำหรับแฟนๆ Harry Potter สามารถซื้อไม้กายสิทธิ์จากด้านนอกและพกเข้าไปได้ด้วย แต่ราคาค่อนข้างแรงอยู่ครับ

รีวิว A Forbidden Forest Experience: Harry Potter พาเที่ยวป่าต้องห้ามเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเวทมนตร์จริงๆ

สิ่งแรกที่เราจะได้เจอคือรูปปั้นกวางซึ่งเป็นผู้พิทักษ์ของ Harry Potter ทำออกมาสวยมาก ตรงนี้จะมีพนักงานคอยถ่ายรูปให้เราด้วยครับ

เดินต่อไปสักพักเราจะพบกับแฮกริดที่กำลังหันหน้าเข้าสู่ป่า และเจ้าแฟงที่หันมาทางเรา ทำออกมาได้สวยสมจริงมาก

รีวิว A Forbidden Forest Experience: Harry Potter พาเที่ยวป่าต้องห้ามเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเวทมนตร์จริงๆ

เดินไปสักพักเราจะเริ่มเจอป้ายให้ระวังตัว Skrewt จนมาเจอกับกล่องบรรจุตัว Skrewt ที่มีเอฟเฟกต์ระเบิดและควันออกมา แต่เสียดายที่ตรงนี้เราจะไม่ได้เห็นตัว Skrewt เลย

เดินต่อมาตามทางเราจะเข้าสู่โซนที่มีนกฮูกอยู่เต็มไปหมดครับ งานนี้เลยต้องสอดส่ายสายตาหาเจ้าเฮดวิก ซึ่งจะดักรอเราเป็นตัวสุดท้ายเลย

โซนถัดไปเป็นโซนที่สร้างความประทับใจให้สุดๆ คือโซนฮิปโปกริฟฟ์ ตรงนี้เราจะต้องต่อแถวรอเล่นนิดนึง โดยจะให้เราไปยืนประจันหน้ากับเจ้าฮิปโปกริฟฟ์แล้วโค้งให้ เจ้าฮิปโปกริฟฟ์ก็จะโค้งให้เราเช่นกัน ให้ความรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในโลกเวทมนตร์จริงๆ เลย ตรงนี้จะมีพนักงานคอยถ่ายวิดีโอให้เราด้วยครับ

ถัดมาเราจะเจอกับ Grawp น้องต่างพ่อของแฮกริดครับ

รีวิว A Forbidden Forest Experience: Harry Potter พาเที่ยวป่าต้องห้ามเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเวทมนตร์จริงๆ

เดินถัดมาเราจะเริ่มเจอป้ายเตือนนิฟเฟลอร์ พร้อมกับเจอกองกระเป๋าที่มีเจ้า Bowtruckle เกาะแกะเต็มไปหมด พร้อมหลุมที่เจ้านิฟเฟลอร์ขุดไว้ ก่อนจะเจอครอบครัวนิฟเฟลอร์ครับ

จุดถัดมาเป็นอีกจุดที่ทำดีมาก แต่พอจับภาพออกมาแล้วดูไม่อลังการเท่าของจริงเท่าไหร่ อยากให้ไปเห็นของจริงมากๆ คือจะเป็นการจำลองเหตุการณ์ที่แฮร์รี่เสกคาถาผู้พิทักษ์ครับ โดยจะมีการใช้ แสง เสียง หมอกควัน มาเสริมให้เหมือนแฮร์รี่ยืนอยู่ลิบๆ และเสกให้เราเห็น

รีวิว A Forbidden Forest Experience: Harry Potter พาเที่ยวป่าต้องห้ามเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเวทมนตร์จริงๆ

เดินมาสักพักเราจะมาเจอกับจุดสังเกตการณ์ยูนิคอร์นครับ จุดนี้เค้าจะใช้วิธีนำจอไปซ่อนไว้ในป่าลึกและเปิดภาพยูนิคอร์นเดินไปมา ประกอบกับเสียงช่วยสร้างบรรยากาศ เหมือนเราเห็นยูนิคอร์นจริงๆ ในป่าเลย

ถัดมาเราจะได้เริ่มเล่นกับเวทมนตร์แล้วครับ จุดแรกเราจะได้ใช้เวทมนตร์ Incendio จุดไฟในตะเกียงครับ เพียงแค่เราไปยืนประจำตำแหน่ง และวาดลวดลายเหมือนเสกเวทมนตร์จริงๆ จะมีเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ทำให้โคมไฟติดขึ้นมา ต้องบอกว่าของจริงออกมาสวยและสมจริงมาก มีพนักงานคอยถ่ายวิดีโอให้เราเช่นกันครับ

รีวิว A Forbidden Forest Experience: Harry Potter พาเที่ยวป่าต้องห้ามเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเวทมนตร์จริงๆ

ถัดมาเราจะได้มาแบทเทิลกันด้วยพลังเวทมนตร์ จุดนี้ควรจะมีเพื่อนไปด้วยมากๆ ครับ ถ้าไปคนเดียวอาจจะไม่สนุกเท่าไหร่เพราะเป็นกิจกรรมต้องเล่นเป็นคู่ มีพนักงานคอยถ่ายรูปและวิดีโอให้เราเช่นกัน

รีวิว A Forbidden Forest Experience: Harry Potter พาเที่ยวป่าต้องห้ามเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเวทมนตร์จริงๆ

จุดถัดไปเป็นโซนถ่ายรูปที่เหมาะกับคู่รัก เป็นซุ้มมิสเซิลโทที่แฮร์รี่และโช แชง จูบกัน

รีวิว A Forbidden Forest Experience: Harry Potter พาเที่ยวป่าต้องห้ามเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเวทมนตร์จริงๆ

จุดต่อไปเราจะได้มาเสกคาถาจุดไฟอีกครั้ง แต่เปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนมุมใหม่ ให้รูปที่สวยงามไปอีกแบบ

รีวิว A Forbidden Forest Experience: Harry Potter พาเที่ยวป่าต้องห้ามเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเวทมนตร์จริงๆ

ถัดมาจะเป็นจุดแวะพัก โดยจะเป็นร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม มีเมนูเด่นเป็นบัตเตอร์เบียร์ เครื่องดื่มที่อยู่ในเรื่องราวของ Harry Potter เป็นเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ครับ

รีวิว A Forbidden Forest Experience: Harry Potter พาเที่ยวป่าต้องห้ามเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเวทมนตร์จริงๆ

ออกจากจุดพัก เราจะมาเจอกับรังของอาราก็อก มีรถยนต์ที่รอนกับแฮร์รี่ขับชนด้วย

และได้เจอกับอาราก็อกด้วย ตัวใหญ่มาก

รีวิว A Forbidden Forest Experience: Harry Potter พาเที่ยวป่าต้องห้ามเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเวทมนตร์จริงๆ

ถัดมาจะเป็นฐานสุดท้าย เป็นฐานที่อลังการที่สุด และต่อคิวรอเล่นนานสุดด้วยครับ เป็นฐานที่เราจะได้เสกคาถาผู้พิทักษ์ โดยเราจะได้วาดลวดลายเสกคาถา และจะมีภาพฉายบนจอโปร่งแสงเป็นผู้พิทักษ์ของเรา โดยสัตว์ผู้พิทักษ์จะใช้การสุ่มขึ้นมาครับ โดยจะมีตัวหายาก ถูกสุ่มขึ้นมาน้อยคือนกฟีนิกซ์ของศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์

รีวิว A Forbidden Forest Experience: Harry Potter พาเที่ยวป่าต้องห้ามเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเวทมนตร์จริงๆ

สรุปการเดินทั้งงาน ผมใช้เวลาไป 1 ชม. 30 นาทีครับ เดินเยอะอยู่ และไม่ค่อยมีที่นั่งพักเท่าไหร่ แต่สามารถพกน้ำดื่มเข้าไปดื่มได้ครับ โดยรวมต้องบอกว่าประทับใจมาก นิทรรศการทำออกมาสวยงาม ทำลูกเล่น แสง สี เสียง ได้น่าประทับใจและถูกใจแฟน Harry Potter มากๆ ถ้าใครมีเวลาว่าง มีเวลา มีเงิน ก็อยากแนะนำให้มาครับ ในเว็บยังไม่มีวันสิ้นสุดการจัดงาน แต่ในหน้าจองตั๋วสามารถจองได้ถึง 21 เมษายนครับ

รีวิว A Forbidden Forest Experience: Harry Potter พาเที่ยวป่าต้องห้ามเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเวทมนตร์จริงๆ

ซื้อตั๋วได้ที่ไหน ราคาเท่าไหร่

การซื้อตั๋วเข้างานจะต้องซื้อผ่าน Fever เท่านั้น มีแอปด้วยครับ โดยตอนเช้างานเราจะต้องเปิดแอปเพื่อแสดงตั๋วก่อนเข้างาน สำหรับราคาค่าตั๋วจะไม่เท่ากันในแต่ละวันและแต่ละช่วงเวลาที่เข้างานด้วย ถ้าเป็นช่วงวันหยุดและเสาร์อาทิตย์จะแพงหน่อย เราสามารถดูราคาได้ล่วงหน้าตั้งแต่ตอนจองเลย ราคาถูกสุดจะอยู่ที่ 44 ดอลลาร์ และแพงสุดอยู่ที่ 96 ดอลลาร์เลยทีเดียว

ซื้อตั๋วได้ที่นี่

วิธีการเดินทางไป A Forbidden Forest Experience: Harry Potter

วิธีการเดินทางไปงานจะทำได้ 2 วิธี

  1. เดินทางด้วยรถสาธารณะ ขึ้น MRT หรือรถเมล์ไปที่สถานี VivoCity (สามารถตรวจสอบเส้นทางและสายรถได้ด้วยแอป Google Maps) เข้าไปในห้างจะมีจุดให้ซื้อตั๋วและนั่งรถไฟโมโนเรลเข้าไปยังเกาะ Sentosa ได้ครับ มีค่าเข้าเกาะ 4 ดอลลาร์สิงคโปร์ การเดินทางด้านในฟรีทุกอย่าง ให้นั่งโมโนเรลลงสถานี Beach station แล้วต่อรถบัสสาย A ไปยัง Siloso point
  2. นั่ง Cable car (ซื้อตั๋วล่วงหน้าถูกกว่า กดเลย) ไปลง Siloso point จะได้ชมวิวสิงคโปร์จากมุมสูงด้วย

ความเห็น

edtaro.com © 2024 All rights reserved